วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ประกาศ !! ''ไครที่สามารถกู้ วีดีโอและยอดวิวบนyoutubeกลับคืนมาได้ ''ทิ้งข้อมูลการติดต่อไว้ใต้โพสนี้ ทางทีมงานจะติดต่อกลับ (มีรางวัลให้ครับ) นักโทษชาย ธีเดช (OFFICIAL MV ) เพลงนี้ 65,000,000 ล้านวิว ถ้าไครยังจำกันได้ แต่ตอนนี้กลับหายไป ไม่สามารถค้นหาได้เจอ โดยไม่รู้สาเหตุ !!!

ประกาศ !! ''ไครที่สามารถกู้วีดีโอและยอดวิวบนyoutubeกลับคืนมาได้เหมือนเดิม''ทิ้งข้อมูลการติดต่อไว้ใต้โพสนี้ ทางทีมงานจะติดต่อกลับ (มีรางวัลให้ครับ)นักโทษชาย ธีเดช (OFFICIAL MV ) เพลงนี้ 65,000,000 ล้านวิว ถ้าไครยังจำกันได้ แต่ตอนนี้กลับหายไปหมดโดยไม่รู้สาเหตุ


ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้แฟนๆนักโทษชายรอนาน ในระหว่างการกู้คืน ทางทีมงานจิงอัฟขึ้นมาไหม่บน youtube ให้แฟนได้รับช่มกันก่อน !!! สามารถรับช่มได้ที่นี้ https://www.youtube.com/watch?v=fPBK_lQEFqc


วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

การทำเกษตร “ศาสตร์พระราชา”โครงการอันเนื่องมาจากแนวพระราชดำริ อ่าวคุ้งกระเบน คลังปัญญา ศก.พอเพียง 09

4,741 โครงการอันเนื่องมาจากแนวพระราชดำริ ตลอดรัชสมัย 70 ปี แห่งการขึ้นครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (ร.9) ประจักษ์แก่สายตาพสกนิกรชาวไทย-ชาวโลก มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ พาสัญจร-ไขรหัส “ศาสตร์พระราชา” ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี 1 ใน 6 ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปรียบเสมือนดั่ง “คลังปัญญา” แห่ง “ศาสตร์พระราชา” อันเป็นมรดกของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งยังคงเป็นศาสตร์แห่งภูมิปัญญา-สร้างปราชญ์ชาวบ้านทั่วทุกพื้นที่-ทั่วทุกภูมิภาค นายนเรศ แสงอรุณ
นักประชาสัมพันธ์ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฉายภาพพระราชดำริของในหลวง ร.9 ให้มีศูนย์การศึกษาทั่วทุกภูมิภาคว่า การพัฒนาจะต้องเป็นไปตามภูมิประเทศทางภูมิศาสตร์และตามภูมิประเทศทางสังคมศาสตร์ในสังคมวิทยาในนิสัยใจคอของคน จะไปบังคับคนให้คิดอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้นพระองค์ท่านจึงยึดหลักของภูมิสังคม “พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสชัดเจนว่า จุดประสงค์ของการตั้งศูนย์ศึกษาเพราะต้องการให้เป็นสถานที่สำหรับการค้นคว้า วิจัยในท้องที่ เพราะแต่ละท้องที่ฝนฟ้าอากาศและประชาชนในท้องที่แตกต่างกัน” นอกจากการตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ตามภูมิสังคมในท้องถิ่นนั้น ๆ แล้ว อีก 1 จุดประสงค์ คือ การพัฒนาที่ทำกินของราษฎรให้มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น โดยการพัฒนาที่ดิน พัฒนาแหล่งน้ำ ตลอดจนการฟื้นฟูป่า โดยใช้หลักทางวิชาการเกษตรในการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ “การตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาเพื่อการศึกษา ทดลอง วิจัยแล้ว ให้ขยายผลสู่ประชาชน รวมกลุ่มจัดเป็นหลักสูตรอบรม และจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงขยายออกไปอีก เพื่อสร้างปราชญ์ชาวบ้านเพื่อเผยแพร่ให้เข้าถึงประชาชนในทุกระดับ”พระราชดำริในการตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนในวันนั้น เป็น “ศาสตร์พระราชา”
ซึ่งสามารถนำมาแก้ปัญหาการกีดกันทางการค้าได้ทั้งในปัจจุบัน-อนาคต หลักคิด-หลักพัฒนาของในหลวง ร.9 กว่า 37 ปีเต็ม เพื่อส่งเสริมอาชีพการเกษตรในพื้นที่รอยต่อป่าชายเลนและเชิงเขา โดยการศึกษา-ทดลอง-วิจัยและทดสอบพันธุ์พืชเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยปลอดจากภัยสารพิษ อาทิ การปลูกผัก-ผลไม้ปลอดสารพิษ เช่น ชมพู่ทับทิมจันทร์ ละมุดพันธุ์ละลายทอง หม่อนพันธุ์แม่ลูกดก ซึ่งผ่านการทดลอง-วิจัยแล้วว่า เหมาะกับภูมิประเทศ “เนื่องจากพื้นที่เป็นดินตะกอนทรายจากทะเลและเค็ม เนื่องจากอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเล ไม่สามารถนำต้นอะไรมาปลูกก็ได้ จึงต้องปลูกพืชใบหนา เป็นมัน เติบโตในดินทรายและเค็ม”1 ในประเด็นท้าทายเศรษฐกิจโลกในอนาคต คือ การกีดกันทางการค้า โดยใช้ประเด็น “ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” เป็นการกีดกันทางการค้าทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันประเทศไทยยังคงถูกสหภาพยุโรป (อียู) ให้ “ใบเหลือง” ในการทำประมงผิดกฎหมาย ในอดีตจังหวัดชายฝั่งภาคตะวันออก จันทบุรี เป็นแหล่งอัญมณีและผลไม้สำคัญ รวมถึงทรัพยากรด้านการประมงลำดับต้น ๆ ของประเทศ แต่เมื่อประชากรเพิ่มมากขึ้น ความก้าวหน้าที่เทคโนโลยี เครื่องมือประมงในการจับสัตว์น้ำ ส่งผลให้เกิดการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ-ป่าชายเลนถูกทำลาย
“งานประมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกุ้งทะเล ปลาเก๋า ปลากะพงขาว ให้ได้มาตรฐานการเลี้ยงกุ้งอย่างปลอดภัยไร้สารพิษ หรือระบบโค้ดออฟคอนดักต์ (code of conduct) หรือซีโอซี (COC) และ good aquaculture practice (GAP) เพื่อให้สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ การให้บริการคลินิกโรคสัตว์น้ำ ตรวจโรคสัตว์น้ำให้แก่เกษตรกรเลี้ยงกุ้งและปลาในโครงการ” สัตว์น้ำทางเศรษฐกิจหลายชนิดที่ได้รับการส่งเสริมในด้านวิชาการเกษตร การวิจัย-พัฒนา อาทิ กุ้งกุลาดำ กุ้งแชบ๊วย ปลากะพงขาว ปลาเก๋า ปลาแขยงกง หอยหวาน ได้รับการพัฒนาให้ผ่านมาตรฐานสากล-พ้นระดับการกีดกันทางการค้าของต่างประเทศ
เมื่อปี 2530 มีการส่งเสริมการเลี้ยงกุ้งกุลาดำรอบอ่าวคุ้งกระเบน โดยจัดสรรพื้นที่ป่าชายเลนเสื่อมโทรมรอบอ่าวคุ้งกระเบน จำนวน 728 ไร่ เพื่อให้ประชาชนที่มีฐานะยากจนประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งกุลาดำ อย่างไรก็ตาม การสูบน้ำในทะเลเพื่อเลี้ยงกุ้งและสูบออกลงทะเลโดยตรง ไม่บำบัด จึงเกิดการปนเปื้อนของน้ำทะเล ส่งผลกระทบต่อหญ้าทะเล แนวปะการัง ป่าชายเลน และเกิดโรคระบาดรอบอ่าวคุ้งกระเบน รวมถึงการเลี้ยงกุ้งของเกษตรกร“พระองค์พระราชทานแนวพระราชดำริว่า มีวิธีที่ทำให้การเลี้ยงกุ้งทะเลเป็นรายได้และไม่มีมลพิษ และสามารถส่งออกกุ้งจำนวนมากและมีคุณภาพสูง จึงเป็นที่มาของมาตรฐาน COC และ GAP เนื่องจากต่างประเทศสร้างเงื่อนไขเป็นเครื่องมือกีดกันทางการค้าว่า การเลี้ยงกุ้งเป็นการทำลายป่าชายเลนและสิ่งแวดล้อม”ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล พระองค์ทรงมีพระราชดำริการพัฒนาการเลี้ยงกุ้งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยระบบ “ชลประทานน้ำเค็ม” โดยการบำบัดน้ำเลี้ยงกุ้งก่อนใช้ประโยชน์ต่อไป-ลงทะเล ท่ามกลางคลื่นลมเศรษฐกิจทุนนิยมโลก-โลกาภิวัตน์ และภัยเศรษฐกิจรูปแบบใหม่-การกีดกันทางการค้า “ศาสตร์แห่งพระราชา” จึงเป็น “หลักชัย” ยึดเหนี่ยวไม่ตกเทรนด์โลก Credit:http://www.tnews.co.th

วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

#1 มาแรงในยูทูบ 1 วัน 1,000,000 วิว MV แอบ เพลงไหม่ล่าสุด หนุ่มกะลา ( KALA )

ตลอดเวลา 19 ปีในวงการเพลง หนุ่ม กะลา (ณพสิน แสงสุวรรณ) เป็นศิลปินร็อคที่มาพร้อมผลงานเพลงรักโรแมนติกหลายซิงเกิล ไม่ว่าจะเป็นเพลง "ขอเป็นตัวเลือก" "บอกสักคำ" "เธอเป็นแฟนฉันแล้ว" รวมถึงเพลง "ปล่อยมือฉัน" "แล้วแต่ใจเธอ" ที่เขาทำในฐานะศิลปินเดี่ยว
โดยหลังจากที่ปล่อยผลงานเพลง "ไม่มีปาฎิหาริย์" ที่เขาเขียนออกมาเพื่อให้กำลังใจผู้ฟังเมื่อช่วงเดือนกันยายนปี 2017 หนุ่ม กะลา ก็กลับมาพร้อมเพลง "แอบ" ซิงเกิลแนวแอบรักที่มาพร้อมหนังสั้นสามตอน เพื่อเรียกน้ำย่อยคนดูก่อนชมบทสรุปของเรื่องราวและฟังเพลงเต็มๆ ซึ่งเพลงนี้ หนุ่ม กะลา เองได้รอเวลาถึง 2 ปีกว่าที่จะปล่อยออกมาให้แฟนๆได้ฟังกัน ผลงานเพลง "แอบ" เป็นเพลงซอฟท์ร็อคในสไตล์ของหนุ่มกะลาที่พูดถึงการแอบรัก ซึ่งในเพลงนี้ ตุ้ย - คฐา ชัยวรภัทร ผู้เขียนเพลง "4 นาที" และ "ไม่เห็นฝุ่น" ของวงกะลากลับมารังสรรค์เนื้อเพลงด้วยภาษาอันสละสลวยอีกครั้ง โดยในส่วนของทำนอง หนุ่ม กะลา เองก็มีส่วนร่วมในการเขียนด้วย ซึ่งเพลงนี้นอกจากซาวด์กีต้าร์แล้ว ยังได้มีการผสมผสานซาวด์เปียโนที่ไพเราะจนทำให้เพลงเต็มไปด้วยความอบอุ่น


ทางด้านของมิวสิควิดีโอนั้น ก็เป็นบทสรุปของภาพยนตร์สั้น ซึ่งตัวละครหญิงได้แอบรักพระเอกที่ดูเหมือนจะมีคนรักแล้ว ก่อนจะค่อยๆคลี่คลายปมในตอนจบ ซึ่งตอนจบนั้นอาจจะทำให้หลายคนที่เคยชมเอ็มวีแนวแอบรักเพื่อนเพลงอื่นรู้สึกแปลกใจ การกลับมาครั้งนี้ หนุ่ม กะลา ได้มาพร้อมผลงานเพลงรักในสไตล์ผู้ชายถ่อมตัวที่หลายคนคุ้นเคย ซึ่งแฟนๆสามารถฟังเพลงรักของเขาได้ที่ JOOX และ Sanook Music เลยครับ ขอบคุณภาพจาก Facebook Num Kala
Credit:http://www.tnews.co.th

สิ่งที่ควรรับรอง แต่ไม่ทำ ! ฝรั่งตบหน้าไทยอีก ฉกสมุนไพรใบกระท่อม ไปสร้างแบรนด์ “Thai Kratom”



สิ่งที่ควรรับรอง แต่ไม่ทำ ! ฝรั่งตบหน้าไทยอีก ฉกสมุนไพรใบกระท่อม ไปสร้างแบรนด์ “Thai Kratom” อธิบายสมุนไพรอันน่าทึ่ง Remarkable Herbs แพทย์แผนไทยมองตาปริบๆ ผู้สื่อข่าวกองบรรณาธิการ www.medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพของคนรุ่นใหม่ และ เพจ sasook รายงานว่า ขณะที่บ้านเรากำลังจะมีปัญหาเรื่องมาตรฐาน และกฎระเบียบหมอพื้นบ้าน ขอบเขต การให้ความรู้เรื่องสมุนไพรในทางที่ถูกต้อง โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ที่ปัจจุบันกระแสข่าวนำเอามาตรฐานทางวิชาชีพไปกำหนดบรรทัดฐาน ซึ่งสมุนไพรที่ผ่านการวิจัย และ มีมานานมาก กลับไม่ได้การรับรอง
หากพูดถึงสมุนไพร หลายๆ คนนึกถึง หมอต้อม หรือ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร รอง ผ.อ.โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร หัวหน้าโครงการสาธิตการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร หลายๆ ครั้ง หมอต้อม หรือ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ได้ต่อสู้เพื่อนำเอาสมุนไพรที่มีการวิจัยเชิงประจักษ์แล้วว่ารักษาได้ เช่น “ใบกระท่อม” ยกขึ้นมาเพื่อให้เห็นว่าคนไทยรู้จักใช้ใบกระท่อมเป็นสมุนไพรบำรุงกำลังมาตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยาตอนต้น ลองไปอ่านในหนังสือเล่มล่าสุดที่หมอต้อมแจกในมหกรรมสมุนไพรฯ ช่วงนี้เราเห็นผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่งที่มีการพูดถึงกันมาก ซึ่งมันคือใบกระท่อมที่นำมาดัดแปลง ผ่านกระบวนการออกมาเป็นสมุนไพร มีขายแล้วที่เมือง Portland, Oregon, USA ทั้งปั๊มน้ำมัน และซุปเปอร์ทั่วไป ทั้งนี้ ที่ขายได้เพราะเมือง Portland, Oregon, USA อนุญาตให้จำหน่ายกัญชาได้อย่างถูกกฎหมายต่อไปอาจขยายไปจำหน่ายที่รัฐโคโลราโด้และจะรวยมากขึ้นเมื่อขยายสู่รัฐแคลิฟอร์เนียที่เป็นตลาดใหญ่หลายพันล้านดอลลาร์ สำหรับ ราคาแพงน่าดู 60 เม็ดแคปซูล 1,800 บาท ( $56.25 หากเอา 1,800 หารด้วย 32 ) มีทั้งแบบเม็ดและแบบผง สรรพคุณลดความเจ็บปวด และสู้งานเหมือนเป็นยาดีชูกำลัง ประเทศอื่นนำไปจดทะเบียนกันหมด มีแต่ประเทศเรานี่แหละ ซื้อยาเคมีมากินกันปีละหลายหมื่นล้าน หรือกลัวว่า ถ้าใบกระท่อมถูกกฎหมาย เครื่องดื่มชูกำลังจะขายไม่ออก
ผลิตภัณฑ์สมุนไพรใบกระท่อม ใช้คำว่า Thai Kratom ให้เกียรติประเทศเราจริงๆ อธิบายด้วยว่าเป็นสมุนไพรอันน่าทึ่ง ( Remarkable Herbs ) แถมยังบอกว่าปลูกแบบ Organics ด้วย ฝรั่งนี่ชอบนักคำว่าออร์แกนนิกเพราะปลูกไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมีเขาห่วงสุขภาพมาก เมืองไทยช้ามาก เช่นข้าว หอมมะลิใช้คำว่า Jasmine Rice เมื่อมีคนนำไปจดทะเบียน เราก็ใช้ไม่ได้ จึงต้องไปจดใหม่เป็น Thai Hom Mali Rice สำหรับเราจะผลิตใบกระท่อม และกัญชาเพื่อการส่งออกหรือไม่ ? น่าคิด จะต้องแก้กฎหมายอีกนานแค่ไหน เพราะสอบไปก็บอกว่าอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แปลกใจ ?? หรือว่า ใบกระท่อม มันไม่มีกระแส ไม่มีคนไปกดดัน จึงทำให้ไม่มีการตัดสินใจ ร่วมพิจารณา เนื่องจากกลัวคำครหา หากยังนำคนกลัว ไปนั่งในตำแหน่งระดับการตัดสินใจ อาจจะเขียนกฎหมายใหม่ ยกระดับหน่วยงานนั้นๆ ขึ้นเป็น หน่วยงานอิสระ ไปเลย แล้วมีกฎหมายห้ามฟ้องร้อง เพราะขนาดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ
ตอนนี้ยังต้องให้เป็นข่าวก่อนเลย มิอาจไปจับได้ หวั่นเป็นคดีหลังเกษียณ ตอนนี้ฝรั่งยังนำไปโฆษณาว่า Thai Kratom สังคมไทยควรช่วยกันหาทางออก ในอนาคตอาจใช้แทนกาแฟก็ได้ หรือเครื่องดื่มน้ำดำที่นิยมกันทั่วโลกก็มีส่วนผสมของใบโคคา เพราะฉะนั้นในอนาคตอาจมีเครื่องดื่มกระท่อมเป็นยา เป็นเครื่องดื่ม ที่เราขาดโอกาสพัฒนา ถึงเวลาที่ ทุกฝ่ายควรนำกระท่อมมาใช้ประโยชน์ทางสมุนไพร การแพทย์แผนไทย มียาหลายอย่างที่เราต้องนำเข้า กระท่อมจะมีบทบาทที่จะนำมาใช้เป็นยา จึงควรพัฒนา กฎหมายยกมาเป็นสมุนไพรควบคุมตาม พ.ร.บ.คุ้มครอง และส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย แบบนี้จะเข้าท่ากว่า ไปรับรองสิ่งที่ไม่ควรรับรอง...เห็นข่าวตอนนี้ มีคนตายทุกวันก็สงสารจริงๆ

ขอบคุณ : ดูดวงวันนี้

 
Credit:http://www.tnews.co.th